เรื่องปวดหัวที่คนเปิดร้านอาหารต้องเผชิญ
จากที่ได้ไปช่วยเหลือร้านอาหารจำนวนมาก ป้องกัน และแก้ไขปัญหาของเขาให้ลุล่วง และทำงานได้ราบรื่น สร้างยอดขายได้ต่อเนื่อง... เราเห็นว่าปัญหาหลาย ๆ อย่างของแต่ละร้านจะคล้ายๆ กัน จนสรุปบทเรียนเหล่านั้นออกมา...ถูกโกงจนชิน
ร้านอาหารเป็นธุรกิจที่ต้องใช้คนเยอะ และเป็นคนที่ค่าแรงไม่สูงเสียด้วย เด็กเหล่านี้ถ้ามีโอกาสจะโกง ถามว่า "เขาจะโกงไหม?" คำตอบคือ "โกงแน่นอน" เพราะร้านอาหารมีจุดรั่วไหลได้หลายจุด เช่น โกงแบบง่ายๆคือการแอบทำอาหารกินกันเอง ซึ่งอันนี้ไม่ค่อยรุนแรงเท่าไหร่ แต่ละคนก็กินเฉพาะมื้อนั้นๆ แต่ที่น่ากลัวที่สุดที่เคยเจอมาคือ "โกงยกบิล" เป็นการโกงที่ใช้ช่องโหว่ของระบบการทำงาน ที่พนักงานเดินไปเก็บเงินลูกค้า แล้วไม่นำมาส่งที่แคชเชียร์ แต่กลับเอาเงินเชิดไปเฉยๆเลย ซึ่งถ้าแคชเชียร์ไม่ได้บันทึกไว้ว่ารอเงินโต๊ะไหนอยู่ เด็กเสิรฟก็อาจจะโกงยกบิลแบบนี้ได้สบายๆขายดียังไงก็ไม่กำไร
ปัญหาเกิดได้ตั้งแต่ตอนเปิดร้านที่ตั้งราคาอาหารต่ำเกินไป แม้จะขายได้ดียังไงก็ไม่กำไร หรือเผลอๆขาดทุนด้วยซ้ำไป สิ่งที่ควรต้องทำทุกครั้งที่จะเพิ่มรายการสินค้าใหม่คือคำนวณต้นทุนสินค้าให้ดี เผื่อเปอร์เซ็นต์สูญเสียของวัตถุดิบไว้ด้วย ทำให้แน่ใจว่าถ้าเราขายสินค้านี้ได้แล้วจะต้องเหลือกำไรที่เหมาะสมรายการอาหารมากเกิ้น
ดูเผินๆ เรื่องนี้อาจไม่เป็นปัญหา แต่ที่จริงแล้วมีค่าใช้จ่ายตามมามากมาย ตั้งแต่วัตถุดิบที่ต้องสำรองไว้มากขึ้น, ทำเมนูอาหารหลายหน้า (แต่คนส่วนใหญ่ก็สนใจแค่อาหารแนะนำ), ทั้งยังต้องมีพ่อครัวแม่ครัวที่เก่งและจดจำสูตรอาหารทุกสูตรไว้ได้อีก แต่ความเป็นจริงคือ อาหารที่มีอยู่ในเมนูไม่ได้ขายได้ทุกรายการ กว่าครึ่งนึงในเมนูอาจจะแทบไม่ได้ขายเลยด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้เรายังควรต้องมีรายการนั้นไว้ในเมนูหรือไม่? ลองถามใจตัวเองดูนะร้านวุ่นวายตลอดเวลา
ตั้งแต่เด็กเสิรฟรับออเดอร์ลูกค้าผิดพลาด เขียนให้พ่อครัวด้วยลายมือที่ต้องเกาหัวทุกทีที่อ่าน ลูกค้ารอนาน(จนยกเลิกรายการ) และอารมณ์เสียใส่พนักงานและเจ้าของร้าน หรือจะเป็นการคิดเงินผิดพลาด คิดขาดเราก็ขาดทุน คิดเกินลูกค้าก็ว่าเราโกง (บางทีก็ขู่จะไปแฉในโลกโชเชียลอีกต่างหาก) เหนื่อย...แปลว่าเราต้องหาวิธีการทำงานที่ดีขึ้น รัดกุมขึ้น และป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครบ ถึงจะทำงานได้อย่างสบายใจ และมีเวลาไปคิดขยายหรือเปิดสาขาเพิ่ม
ขายดีจนเหมือนติดคุก
ตอนก่อนจะเปิดร้านก็ห่วงมากเลยว่าจะขายไม่ดี แต่พอเปิดร้านเข้าจริงๆกลับเจออีกปัญหานึง คือ บางร้านไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อนว่าจะขายดี พอขายดีเข้าจริงๆ งานวุ่นเลยคราวนี้ อะไรต่ออะไรถาโถมเข้ามา ยุ่งจนเจ้าของร้านอย่างคุณไปไหนไม่ได้เลย (เคยมีเจ้าของร้านบางคนบอกเราว่า "ชีวิตเหมือนติดคุก" อยู่ในร้านของตัวเอง อยากไปไหนก็ไปไม่ได้)นั่นเพราะไม่ได้จัดเตรียมระบบที่ดีไว้ ความไว้วางใจลูกน้องก็ต่ำ ไม่กล้าปล่อยให้เขาเก็บเงินกันเอง กลัวโดนโกง ถ้าไม่อยู่ร้านก็กลัวพนักงานดูแลลูกค้าไม่ดีอีก จะไปไหนก็ห่วงเงินในลิ้นชัก แต่ปัญหานี้จะหมดไปด้วยการใช้เทคโนโลยี ทำให้งานเป็นระบบมากขึ้น ไม่ว่าพนักงานคนไหนทำก็ได้มาตราฐานใกล้เคียงกัน และเจ้าของจะไปไหนก็ตรวจสอบยอดเงินในลิ้นชักได้ตลอดเวลาผ่านแอพ FR Mobile Dashboard (ที่ขณะนี้แจกให้ฟรีกับลูกค้าของเราทุกคนที่ติดตั้งระบบใหม่) แถมยังเรียกดูรายงานยอดขายต่างๆได้บนมือถือของคุณ ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ยังมีเรื่องปวดหัวอื่นๆ ที่เราสรุปและพร้อมแจกให้คุณฟรีๆ ไม่มีเงื่อนไข เพราะเรารู้ว่าคนเปิดร้านก็ต้องอยากขายดีมีกำไรด้วยกันทั้งนั้น และบทเรียนที่เราเรียนรู้มาจากประสบการณ์จริง น่าจะเป็นประโยชน์กับคุณไม่มากก็น้อย
-ถ้าคุณมีปัญหาอื่นอีกและอยากให้เพื่อนๆคนทำร้านอาหารได้รับรู้เขียน line มาเล่าให้เราฟัง แล้วเราจะเอามาต่อเติมในบทความนี้-